รุ่งทิพย์ สุขกำเนิด
หลังย้ายมาอยู่บ้านใหม่ไม่นาน บ่อน้ำหน้าบ้านที่รกไปด้วยธูปฤษี
ก็ถูกแปลงโฉมจนดูดีมีระดับขึ้นมานิดนึงด้วยเพราะดูโล่งจนเห็นน้ำใสๆ
แต่ก็ยังขาดชีวิตชีวา ลูกๆจึงเชียร์ให้แม่ไปหาปลาสีสวยๆอย่างปลาคราฟมาเลี้ยง
ไปเดินจตุจักรเกือบครึ่งวัน คิดสะระตะถ้วนถี่
ในที่สุดก็เปลี่ยนใจจากปลาที่แพงหูฉี่มาเป็นปลาน้อยที่ใครๆก็ไม่รัก
หวังแต่จะเอาลงกระทะท่าเดียวอย่างทับทิม ตะเพียน แล้วก็ยี่สก
ด้วยความสงสาร(ตัวเอง) แล้วก็กลัวมันจะเหงา เลยรับมาเลี้ยงดูอย่างละ 100 ตัว
ให้มาเล่นเป็นเพื่อนกัน ช่วงทำพิธีส่งปลาลงสระ
เด็กๆสนุกกันมากเพราะต้องไล่จับเหล่าปลาน้อยที่ดูดี้ด้าผลัดกันโดดออกนอกกะละมังระหว่างที่รอให้บางตัวฟื้นจากอาการเมารถจนนอนตะแคง
ผ่านไปไวเหมือนโกหก
ขณะที่กำลังทำอาหารเย็นอยู่ในครัวก็ได้ยินเสียงตะโกนลั่น “แม่คร้าบ.. มาดูเร็ว นั่นฝูงอะไร
ไม่น่าจะเป็นลูกอ๊อดนะ สีส้มๆ
ลูกปลาทับทิมรึเปล่า” ฉันรีบวิ่งมาตามเสียงเรียก แต่ในใจก็นึกสงสัยว่า
เป็นไปได้ไง
เพราะเท่าที่รู้มาปลาทับทิมเป็นปลาที่เป็นหมันมิใช่หรือ??
ดูจากรูปพรรณของสิ่งมีชิวิตเล็กๆ บวกกับความสงสัยในตัวแม่ค้าทำปลามานานแล้วที่อาจเป็นผู้ขโมยไข่ปลาทับทิมมาโดยตลอด
ทำให้เราไม่อาจนิ่งดูดาย เลยกระโดดเข้าหาคุณครูกูเกิล
และแล้วความจริงก็ปรากฏ...ว่า “จริงๆแล้วเจ้าปลาทับทิมทั้งหลายไม่ได้เป็นหมันอย่างที่เราคิด ก็ด้วยความที่เจ้าปลาชนิดนี้เป็นปลาไวไฟ
ไม่ใช่ย่างแป๊บเดียวสุกนะคะ แต่สามารถผสมพันธุ์และวางไข่ได้ตั้งแต่อายุ 2 เดือน แล้วมันก็เริ่มเป็นปลาที่กินเสียข้าวสุก
คือกินไม่รู้จักโตขยันมีลูกอย่างเดียว ตัวจึงเล็กขายไม่ได้ราคา ทั้งๆที่รสชาติถูกอกถูกใจทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ จึงทำให้เจ้าของฟาร์มปลาต้องหาทางจัดการให้มันเป็นทอมตั้งแต่ยังแบเบาะด้วยการใช้ฮอร์โมนเพศผู้ผสมในอาหารให้กินจนถึงระยะที่มั่นใจว่า
ลูกปลาตัวผู้จะโตขึ้นมาเป็นแมนบึกบึน ขณะเดียวกันเจ้าฮอร์โมนดังกล่าวก็ไปยับยั้งการหลั่งของฮอร์โมนเพศเมีย
ทำให้ลูกปลาตัวเมียไม่คิดจะมีครอบครัวเอาแต่กินจนอ้วนพีเพราะไม่สนใจหนุ่มหน้าไหน การให้ฮอร์โมนจะทำไปจนปลาอายุได้ 30 วันหรือจนถึงระยะที่เรียกว่าลืมเพศตัวเองอย่างถาวร”
“ฮอร์โมน”
คำนี้ ทำให้เราเลิกซื้อปลาทับทิมอย่างถาวร แล้วก็หันมาขุนปลาในสระแทน แม้ปลาที่ได้จะตัวไม่ใหญ่เท่าตลาดแต่ก็เป็นปลาที่แข็งแรงและฉลาดเฉลียว
สังเกตได้จากการที่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์การจับอยู่เรื่อย
เพราะบรรดาปลาของเรารู้ทันไปหมด
แถมยังเป็นปลาที่มีความทนทาน
เพราะสังเกตว่าไม่เคยมีโรคภัยไข้เจ็บใดๆมาแพ้วพานให้มันจากเราไปเองสักตัวเดียว
เว้นแต่การได้ตอบแทนบุญคุณผู้เลี้ยงด้วยการเป็นเมนูเด็ดบนโต๊ะเสียก่อน ซึ่งต่างจากปลากระชังที่ต้องให้ยาปฏิชีวนะเป็นระยะ
แล้วตามฟอร์มาลินก่อนจับขายเพื่อให้ปลายังมีลมหายใจเมื่อเราไปเลือกซื้อ
ผ่านไปเกือบปี
ตอนนี้ปลาทับทิมที่บ้านขยายพันธุ์แบบตามทฤษฏีเลยทีเดียว ตอนนี้น่าจะอยู่ที่เกือบ
1,000 ตัว กินไม่ทันเลยค่ะ ขนาดมีนกกระยางขาประจำมาช่วยแล้ว สุดคุ้มจริงๆ
ลงทุนครั้งเดียวกินไปชั่วลูกชั่วหลาน
อ้างอิง
http://www.tcijthai.com/investigative-story/466
และบทความเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตปลานิลแปลงเพศ นายกฤษณะ เรืองคล้าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น